ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาคิเราะฮ์"

จาก wikishia
Ali.Anfal (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Jamal (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 16: บรรทัดที่ 16:
[[มุฮัมมัดตะกี มิศบาฮ์ ยัซดีย์]] กล่าวว่า  โองการ [[อัลกุรอาน]] มากกว่าหนึ่งในสามของโองการทั้งหมดถูกกล่าวถึงอาคิเราะฮ์ (6) ในอัลกุรอาน ระบุว่า การมีความศรัทธาต่อโลกอาคิเราะฮ์ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการเชิญชวนบรรดาศาสนทูตทั้งหมด (7) ตามโองการอัลกุรอาน ระบุอีกว่า การมีความศรัทธาในอาคิเราะฮ์ พร้อมทั้งความศรัทธาใน [[อัลลอฮ์]] และ [[ศาสนทูตของพระองค์]] เป็นหนึ่งใน [[รากฐานของศาสนาอิสลาม]] ตามความเชื่อของสำนักคิดอิสลาม ถือว่า การมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับศาสนา และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีความศรัทธาในเรื่องนี้ ไม่ถือว่า เขานั้นเป็นมุสลิม (9)
[[มุฮัมมัดตะกี มิศบาฮ์ ยัซดีย์]] กล่าวว่า  โองการ [[อัลกุรอาน]] มากกว่าหนึ่งในสามของโองการทั้งหมดถูกกล่าวถึงอาคิเราะฮ์ (6) ในอัลกุรอาน ระบุว่า การมีความศรัทธาต่อโลกอาคิเราะฮ์ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการเชิญชวนบรรดาศาสนทูตทั้งหมด (7) ตามโองการอัลกุรอาน ระบุอีกว่า การมีความศรัทธาในอาคิเราะฮ์ พร้อมทั้งความศรัทธาใน [[อัลลอฮ์]] และ [[ศาสนทูตของพระองค์]] เป็นหนึ่งใน [[รากฐานของศาสนาอิสลาม]] ตามความเชื่อของสำนักคิดอิสลาม ถือว่า การมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับศาสนา และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีความศรัทธาในเรื่องนี้ ไม่ถือว่า เขานั้นเป็นมุสลิม (9)


ในหนังสือต่างๆทางด้านหลักศรัทธา ระบุว่า ชาวมุสลิมเรียกโลกอาคิเราะฮ์ว่า [[หลักการมะอาด]] (10) [[บัรซัค]] [[กิยามัต]] [[ศิรอฏ]] [[ฮิซาบ]]
มุรตะฎอ มุเฏาะฮะรี กล่าวว่า ในหนังสือเทววิทยาอิสลาม ชาวมุสลิม ถือว่า ความศรัทธาต่อโลกอาคิเราะฮ์ เป็น  ‎ [[หลักมะอาด]] (10) [[บัรซัค]] [[กิยามัต]] [[ศิรอฏ]] [[ฮิซาบ]] เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับอาคิเราะฮ์ ซึ่งในอัลกุรอาน ฮะดีษต่างๆ และผลงานเขียนของบรรดานักวิชาการมุสลิม ได้มีการพูดคุยถึงมันและตามอัลกุรอาน ระบุว่า จะต้องมีความศรัทธาในสิ่งเหล่านี้[11]‎


== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:15, 6 มีนาคม 2567

อาคิเราะฮ์ (ปรโลก) (ภาษาอาหรับ : الآخرة) หมายถึง โลกหลังความตาย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากโลกนี้ อาคิเราะฮ์ ตรงกันข้ามกับชีวิตในโลกนี้ การมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ ถือเป็นรากฐานของศาสนา และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีความเชื่อในประเด็นนี้ ไม่ถือว่า เขาเป็น มุสลิม อัลกุรอาน ได้ให้ความสำคัญในอาคิเราะฮ์เป็นอย่างมาก และการมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ ถือเป็นหลักการของการเชิญชวนของบรรดาศาสดาทั้งหมด กล่าวได้ว่า มีโองการอัลกุรอานมากกว่า 1 ส่วน 3 ได้กล่าวถึงอาคิเราะฮ์ ในหนังสือต่างๆที่เกี่ยวกับหลัก ศรัทธา ชาวมุสลิมเรียกอาคิเราะฮ์ว่า มะอาด ซึ่งได้มีการพิสูจน์ด้วยเหตุผลทางการรายงาน (นักลี) และด้านสติปัญญา (อักลี) บรรดาผู้รู้ชาวมุสลิม ด้วยการอ้างอิงจากโองการอัลกุรอาน ถือว่า อาคิเราะฮ์ เป็นโลกที่มีความแตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง และยังมีการกล่าวถึงคุณลักษณะของมันอีกด้วย เช่น ความเป็นนิรันดร การแยกผู้ที่กระทำความดีออกจากผู้ที่กระทำความชั่ว การได้รับผลของการกระทำและการได้รับประโยชน์จากนิอ์มัตต่างๆตามความเหมาะสม

นักวิชาการมุสลิมบางคน เชื่อว่า อาคิเราะฮ์ เริ่มขึ้น หลังจากที่โลกนี้ได้พบความสิ้นสุด แต่ทว่าอีกกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อว่า ขณะนี้ โลกอาคิเราะฮ์ เกิดขึ้นท่ามกลางโลกนี้

อาคิเราะฮ์ คือ อะไร

อาคิเราะฮ์ในเชิงภาษา หมายถึง การสิ้นสุด หลังจาก และอื่นๆ (1) และความหมายของมัน กล่าวคือ โลกอื่นหลังจากโลกนี้ (2) ในอัลกุรอานได้อธิบายถึงโลกหลังความตาย โดยมักใช้คำว่า อาคิเราะฮ์ (104 ครั้ง) และบางครั้งใช้คำว่า ดารุลอาคิเราะฮ์ (บ้านอีกหลังหนึ่ง) และเยามุลอาคิเราะฮ์ (วันอาคิเราะฮ์) (3)

ความสำคัญของการมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์

การมีศรัทธายังอาคิเราะฮ์ ถือเป็น รากฐานของศาสนา และเป็นเงื่อนไขสำหรับการเข้ารับอิสลาม หมายถึง ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมรับมัน ไม่ถือว่าเขานั้นเป็นมุสลิม (4) มุรตะฎอ มุเฏาะฮะรีย์ กล่าวว่า คำสอนที่สำคัญที่สุดของ บรรดาศาสนทูต หลังจากหลัก เตาฮีด ซึ่งพวกเขาได้เชิญชวนให้มีความศรัทธายังมัน กล่าวคือ การมีศรัทธายังโลกอาคิเราะฮ์ (5)

มุฮัมมัดตะกี มิศบาฮ์ ยัซดีย์ กล่าวว่า โองการ อัลกุรอาน มากกว่าหนึ่งในสามของโองการทั้งหมดถูกกล่าวถึงอาคิเราะฮ์ (6) ในอัลกุรอาน ระบุว่า การมีความศรัทธาต่อโลกอาคิเราะฮ์ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการเชิญชวนบรรดาศาสนทูตทั้งหมด (7) ตามโองการอัลกุรอาน ระบุอีกว่า การมีความศรัทธาในอาคิเราะฮ์ พร้อมทั้งความศรัทธาใน อัลลอฮ์ และ ศาสนทูตของพระองค์ เป็นหนึ่งใน รากฐานของศาสนาอิสลาม ตามความเชื่อของสำนักคิดอิสลาม ถือว่า การมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับศาสนา และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีความศรัทธาในเรื่องนี้ ไม่ถือว่า เขานั้นเป็นมุสลิม (9)

มุรตะฎอ มุเฏาะฮะรี กล่าวว่า ในหนังสือเทววิทยาอิสลาม ชาวมุสลิม ถือว่า ความศรัทธาต่อโลกอาคิเราะฮ์ เป็น ‎ หลักมะอาด (10) บัรซัค กิยามัต ศิรอฏ ฮิซาบ เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับอาคิเราะฮ์ ซึ่งในอัลกุรอาน ฮะดีษต่างๆ และผลงานเขียนของบรรดานักวิชาการมุสลิม ได้มีการพูดคุยถึงมันและตามอัลกุรอาน ระบุว่า จะต้องมีความศรัทธาในสิ่งเหล่านี้[11]‎

เชิงอรรถ

บรรณานุกรม