อิมามมูซา กาซิม (อ.)

จาก wikishia
(เปลี่ยนทางจาก อิมามมูซา กาซิม)

มูซา บิน ญะอ์ฟัร (ภาษาอาหรับ: الإمام موسى الكاظم عليه السلام) (127 หรือ 128-183 ฮ.ศ.) รู้จักกันในนาม อิมามมูซา กาซิม (อ.) มีสมญานามว่า กาซิม และบาบุลฮะวาอิจญ์ เป็นอิมามคนที่เจ็ดของชีอะฮ์อิมามียะฮ์

เขาถือกำเนิดในปี ฮ.ศ. 128 ในเวลาเดียวกับช่วงการเริ่มต้นการลุกขึ้นต่อสู้ของอบู มุสลิม คุรอซานี ผู้สนับสนุนบะนี อับบาซ เพื่อต่อต้านพวกอุมัยยะห์ และในปี ฮ.ศ. 148 หลังจากการเป็นชะฮีดของบิดาของเขา อิมาม ศอดิก (อ.) เขาได้ดำรงตำแหน่งอิมามัตในตลอดช่วง 35 ปีของการเป็นอิมามัตของเขา อยู่ร่วมสมัยกับเหล่าคอลีฟะฮ์ มันซูร, ฮาดี ,มะฮ์ดี และฮารูน อัรรอชีด อับบาซี

เขาถูกกุมขังหลายครั้งโดยมะฮ์ดีและฮารูน อับบาซี และถูกทรมานในคุกซินดี บิน ชาฮัก ในปี 183 ฮ.ศ.จนได้รับการเป็นชะฮีด หลังจากเขา ตำแหน่งอิมามัตก็ส่งต่อไปยัง อะลี บิน มูซา บุตรชายของเขา

ยุคสมัยการเป็นอิมามัตของอิมามกาซิม (อ.) เป็นช่วงการมีอำนาจสูงสุดของคอลีฟะฮ์อับบาซี และเขาได้ตะกียะฮ์ในการเผชิญหน้ากับระบอบการปกครอง และเขายังสั่งให้บรรดาชาวชีอะฮ์ปฏิบัติเช่นนี้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่มีรายงานจุดยืนที่ชัดเจนของอิมามคนที่เจ็ดของชาวชีอะฮ์ในการเผชิญหน้ากับเหล่าคอลีฟะฮ์อับบาซีและการลุกขึ้นต่อสู้ของพวกอะละวี เช่น การลุกขึ้นต่อสู้ของชะฮีดฟัค เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ เขาพยายามที่ต่อต้านความไม่ชอบธรรมของเหล่าคอลีฟะฮ์อับบาซี จากการเสวนาวิชาการและการสนทนากับพวกเขาและคนอื่นๆ การเสวนาวิชาการและการสนทนาของ มูซา บิน ญะอ์ฟัร กับนักวิชาการชาวยิวและชาวคริสต์บางคน มีรายงานจากแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และสายฮะดีษ ซึ่งเป็นคำตอบในคำถามของพวกเขา มีการรวบรวมฮะดีษของเขามากกว่าสามพันบทในมุสนัด อัล-อิมาม อัล-กาซิม ซึ่งฮะดีษจำนวนได้ถูกรายงานโดยอัศฮาบอิจญ์มาอ์ อิมามกาซิม (อ.) ได้ขยายองค์กรวิกาลัต (ตัวแทน)และแต่งตั้งบุคคลเป็นตัวแทนของเขาในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสื่อสารกับบรรดาชาวชีอะฮ์ อีกนัยหนึ่ง การดำเนินชีวิตอิมามกาซิม (อ.) เกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดขึ้นของการแตกแยกในสำนักคิดต่างๆชีอะฮ์ และการเกิดขึ้นของสำนักคิดอิสมาอีลียะฮ์ ฟะฏอฮียะฮ์ นาวูซียะฮ์ พร้อมกับการเริ่มต้นของการเป็นอิมามัตของเขาและสำนักคิดวากิฟียะฮ์ เกิดขึ้นหลังจากการเป็นชะฮีดของเขา แหล่งข้อมูลของชีอะฮ์และอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ ต่างยกย่องในความรอบรู้ การอิบาดะฮ์ ความอดทน และความเอื้ออาทรของเขา และเขาได้รับสมญานามว่า กาซิม และอัลอับดุศศอลิฮ์

บรรดานักวิชาการของชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ ให้เกียรติกับอิมามคนที่เจ็ดของชาวชีอะฮ์ในฐานะที่เป็นผู้รู้ทางศาสนาผู้หนึ่ง และนอกเหนือจากนี้ บรรดาชาวชีอะฮ์ ยังเดินทางไปซิยาเราะฮ์หลุมศพของเขา

ฮะรอมของอิมามกาซิม (อ.)และฮะรอมของอิมามญะวาด (อ.) หลานชายของเขา อยู่ในเขตพื้นที่เมืองกาซิมัยน์ ทางทิศเหนือของกรุงแบกแดด และเป็นที่รู้จักกันว่า ฮะรอมกาซิมัยน์ และเป็นสถานที่ซิยาเราะฮ์ของชาวมุสลิม โดยเฉพาะบรรดาชาวชีอะฮ์

ชีวประวัติ

มูซา บินญะอ์ฟัร ถือกำเนิดในเดือนซุลฮิจญะฮ์ ปีที่ 127 ฮ.ศ. [1] หรือ วันที่ 7 ศอฟัร ปีที่ 128 ฮ.ศ [2] เวลาที่อิมามศอดิก (อ) และท่านหญิงฮามีดะฮ์ ภรรยาของเขา เดินทางกลับจากฮัจญ์ อิมามกาซิม (อ.) ถือกำเนิด ณ เขตพื้นที่อับวาอ์ (3)บางคนกล่าวว่า เขาถือกำเนิดในปี 129 ฮ.ศ. และในเมืองมะดีนะฮ์ [4] ในปฏิทินของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน บันทึกไว้ว่า วันถือกำเนิดของอิมามคนที่ 7 คือ วันที่ 20 ซุลฮิจญะฮ์ [5] แหล่งข้อมูลบางแห่ง รายงานว่า อิมามศอดิก (อ.) ให้ความสนใจอย่างมากในตัวของเขา [6] ดังริวายะฮ์จากอะห์มัด บัรกี รายงานว่า ภายหลังการถือกำเนิดของมูซา บุตรชายของเขา อิมามศอดิก(อ.) ได้แจกจ่ายอาหารให้แก่ประชาชนเป็นเวลาถึงสามวัน (7)

เชื้อสายของมูซา บินญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด บินอะลี บินฮุเซน บินอะลี บินอะบีฏอลิบ เชื้อสายของเขาถึงอิมามอะลี (อ.) โดยสี่ระดับชั้น บิดาของเขา คือ อิมามศอดิก (อ.) อิมามคนที่หกของบรรดาชีอะฮ์ และมารดาของเขาคือ ท่านหญิงฮะมีดะฮ์ บัรบะรียะฮ์ [8] ฉายานามของเขา คือ อะบูอิบรอฮีม, อะบุลฮะซันเอาวัล อบุล ฮะซัน มาฎีย์ และอบูอะลี เนื่องจากที่เขามีความสามารถในการระงับความโกรธแค้นต่อพฤติกรรมที่ไม่ดีของผู้อื่น เขาจึงได้รับฉายานามว่า กาซิม [9] และด้วยการทำอะมั้ลอิบาดะฮ์อย่างมาก เขาจึงได้รับสมญานามว่า อัลอับดุศศอลิฮ์ [10] บาบุลฮะวาอิจญ์ ก็เป็นหนึ่งในสมญานามของเขา [11] และประชาชนเมืองมะดีนะฮ์เรียกเขาว่า ซัยนุลมุจญ์ตะฮิดีน (เครื่องประดับของบรรดาผู้ขวนขวาย) (12)

มูซา บินญะอ์ฟัร (อ.) ถือกำเนิดในช่วงการเปลี่ยนผ่านอำนาจจากบะนีอุมัยยะฮ์ไปยังบะนีอับบาซียะฮ์ เมื่อเขาอายุได้สี่ขวบ เคาะลีฟะฮ์คนแรกของบะนีอับบาสก็ขึ้นสู่อำนาจ ในการดำเนินชีวิตของอิมามกาซิม (อ.)ไม่มีข้อมูลมากนัก ก่อนดำรงตำแหน่งอิมามะฮ์ของเขา ยกเว้นจากการสนทนาทางวิชาการบางอย่างในช่วงวัยเด็กของเขา รวมถึงการสนทนากับอะบูฮะนีฟะฮ์[13] และนักวิชาการของศาสนาอื่นๆ[14] เชื่อว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองมะดีนะฮ์

มีริวายะฮ์ในหนังสือมะนากิบ รายงานว่า อิมามกาซิม (อ.) ได้เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของซีเรียโดยไม่เปิดเผยชื่อและได้สนทนากับนักบวชที่นั่น ซึ่งทำให้นักบวชผู้นั้นและบรรดาสหายของเขา เข้ารับมุสลิม [15] นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเดินทางของอิมามกาซิม (อ.)ไปยังเมืองมักกะฮ์เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์หรือทำอุมเราะฮ์ [16] อิมามกาซิม (อ.)ถูกเรียกตัวไปยังกรุงแบกแดดหลายครั้งโดยเคาะลีฟะฮ์อับบาซีย์ ยกเว้นกรณีเหล่านี้ ชีวิตส่วนมากของอิมามกาซิมนั้นอยู่ในเมืองมะดีนะฮ์

ภรรยาและบุตร

จำนวนภรรยาของอิมามกาซิม ไม่เป็นที่ชัดเจนนัก ภรรยาคนแรก คือ ท่านหญิงนัจญ์มะฮ์ มารดาของอิมามริฎอ [29] มีรายงานที่แตกต่างกันเกี่ยวกับจำนวนบุตร ของเขา ในแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จากรายงานของเชคมุฟีด ระบุว่า เขามีบุตรทั้งหมด 37 คน (บุตรชาย 18 คน และบุตรสาว 19 คน) อิมามริฎอ (อ.), อิบรอฮิม, ชาห์เชรอฆ, ฮัมซะฮ์, อิสฮัก อยู่ในหมู่บุตรชายของเขา และฟาฏิมะฮ์ มะอ์ศูมะฮ์ และฮะกีมะฮ์ ก็อยู่ในหมู่บุตรสาวของเขา[30] เชื้อสายของอิมามกาซิม (อ.) เป็นที่รู้จักในชื่อว่า บรรดาซาดัต มูซาวี (31)

สมัยการเป็นอิมามัต

บรรดาเคาะลีฟะฮ์ในสมัยอิมามกาซิม เคาะลีฟะฮ์ก่อนยุคอิมามัต (ฮ.ศ.128-148) ปี เคาะลีฟะฮ์ 128-132 ฮ.ศ. มัรวาน บิน มูฮัมหมัด 132-136 ฮ.ศ. ซัฟฟาฮ์ 136-148 ฮ.ศ.มันศูร ดะวานีกี เคาะลีฟะฮ์ก่อนยุคอิมามัต (ฮ.ศ.128-148) ปี เคาะลีฟะฮ์ 148-158 ฮ.ศ. มันศูร ดะวานีกี 158-169 ฮ.ศ. มะห์ดี อับบาซี 170-169 ฮ.ศ. ฮาดี อับบาซี 170-183 ฮ.ศ. ฮารูนอับบาซี

ช่วงยุคสมัยของการเป็นอิมามัต

มูซา บินญะอ์ฟัร หลังจากการเป็นชะฮีดของอิมามศอดิก (อ.) ในปี ฮ.ศ. 148 เขาจึงดำรงตำแหน่งอิมามัต เมื่ออายุได้ 20 ปี [32] ช่วงเวลาของอิมามัตของเขา ตรงกับช่วงเวลาของเคาะลีฟะฮ์อับบาซียะฮ์ทั้งสี่คน (33) ประมาณ 10 ปี จากอิมามัตของเขา อยู่ในช่วงการเป็นเคาลีฟะฮ์ของมันศูร (ปกครองระหว่างปี 136-158 ฮ.ศ.) 11ปี อยู่ในช่วงการเป็นเคาลีฟะฮ์ของฮาดี อับบาซี (ปกครองระหว่างปี 169-170 ฮ.ศ.) และ 13 ปี ในช่วงการเป็นเคาะลีฟะฮ์ของฮารูน (ปกครอง 170-193 ฮ.ศ.) (34) ช่วงเวลาการเป็นอิมามัตของมูซา บินญะอ์ฟัร คือ 35 ปี และด้วยการเป็นชะฮีดของเขาในปี 183 จึงทำให้ตำแหน่งอิมามัต ไปถึงยังบุตรของเขา คือ อิมามริฎอ (อ.) (35)

เชิงอรรถ

บรรณานุกรม