อัสมาอ์ บินติ อุมัยส์

จาก wikishia

อัสมาอ์ บินติ อุมัยส์ (ภาษาอาหรับ: أسماء بنت عميس) (เสียชีวิต หลังฮิจเราะฮ์ที่ 38 )เป็นหนึ่งศอฮาบะฮ์(สาวก)ของศาสดาของอิสลาม(ศ็อลฯ) เป็นผู้ที่ช่วยอิมามอะลี (อ.) ในการอาบน้ำศพ(ฆุซุลญินาซะฮ์)ให้ท่านหญิงฟาฎิมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ.)

อัสมาอ์ เป็นภรรยาของญะอ์ฟัร บินอะบีฏอลิบและหลังจากการเป็นชะฮีดของญะอ์ฟัร ได้แต่งงานกับอะบูบักร บินอะบีกุฮาฟะฮ์ หลังจากการเสียชีวิตของอะบูบักร นางได้แต่งงานกับอิมามอะลี(อ.)

อัสมาอ์ คือ มารดาของอับดุลลอฮ์ บินญะอ์ฟัร (สามีของท่านหญิงซัยนับ(ซ.) และมุฮัมมัด บินอะบูบักร ตัวแทนอิมามอะลี(อ.)ในอียิปต์ ตามคำสั่งเสียของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) ระบุว่า ให้อัสมาอ์ พร้อมกับอิมามอะลี เป็นผู้ที่อาบน้ำฆุซุลให้ท่านหญิง(ซ.)

และเช่นเดียวกัน นางคือบุคคลแรกที่สร้างหีบศพในอิสลามให้กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) เพื่อไม่ให้เรือนร่างของท่านหญิงเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของประชาชน และมีรายงานระบุว่า อัสมาอ์อยู่เคียงข้างท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) มาจนกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของท่านหญิง และยังมีรายงานเช่นกันว่า อัสมาอ์ ได้อยู่ร่วมกันอิมามอะลีและอิมามฮะซันและอิมามฮุเซน(อ.) จนวาระสุดท้ายในชีวิตของนาง

อัสมาอ์ เป็นหนึ่งในบุคคลแรกที่เข้ารับอิสลามและนางได้อพยพพร้อมกับญะอ์ฟัร สามีของนางไปยังเอธิโอเปียและเมืองมะดีนะฮ์ และนางเป็นหนึ่งในรอวีย์ (ผู้รายงาน)ฮะดีษจากศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)

ชีวประวัติ

อัสมาอ์ บินติ อุมัยส์ บิน มะอัด บิดาของนาง มาจากเผ่าพันธุ์บะนีคัษอัม และมารดาของนาง ฮินด์ บินติ เอาว์ (1)นางมีพี่สาวน้องสาว คือ 2 คน:

  • ซัลมา บินติ อุมัยส์ ภรรยาของฮัมซะฮ์ บินอับดุลมุฏฏ็อบลิบ
  • มัยมูนะฮ์ ภริยาศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) (พี่สาวร่วมมารดา)(2)

อัสมาอ์ ได้แต่งงานกับญะอ์ฟัร บินอะบีฏอลิบ น้องชายของอิมามอะลี (อ.) นางเป็นหนึ่งในบุคคลแรกที่เข้ารับอิสลาม และนางได้รับอิสลามในบ้านของอัรกอม ก่อนการเข้ามาของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) (3) อัสมาอ์ บินติ อุมัยส์ ได้อพยพร่วมกับญะอ์ฟัร สามีของนางไปยังเอธิโอเปียในปีที่สี่แห่งการบิอ์ษัต(4) (5)และในปีที่เจ็ดแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช นางได้อพยพไปยังเมืองมะดีนะฮ์ (6) หลังจากปีที่แปดแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ญะอ์ฟัรได้ถูกทำชะฮาดัตในสงครามเมาตะฮ์(7) อัสมาอ์ ได้แต่งงานกับอะบูบักร์และหลังจากการเสียชีวิตของอะบูบักร์ นางได้แต่งงานกับอิมามอะลี(อ.)(8)

มีรายงานจากอิมามศอดิก(อ.) ว่า อัสมาอ์ เป็นหนึ่งในสตรีแห่งสวรรค์(9)

ความสัมพันธ์ของอัสมาอ์ กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.)

ตามคำสั่งเสียของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) ให้อัสมาอ์ช่วยอิมามอะลี บินอะบีฏอลิบ(อ.) ในการอาบน้ำศพ(ญินาซะฮ์) ของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) (10) ตามแหล่งอ้างอิงจากริวายัตของชีอะฮ์ รายงานว่า อัสมาอ์ เป็นคนแรกที่สร้างหีบศพให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ในอิสลาม ขณะเมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) มีอาการป่วย ได้ขอร้องให้อัสมาอ์ว่า อย่าได้เอาร่างกายของท่านหญิงใส่ลงไปในหีบศพที่มองเห็นเรือนร่าง ด้วยเหตุนี้ อัสมาอ์ จึงได้ทำหีบศพที่เคยเห็นในเอธิโอเปียให้กับท่านหญิง เมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ได้เห็นหีบศพนั้นก็รู้สึกปลึ้มใจเป็นอย่างมาก(11) (บันทึกที่ 1) และเช่นเดียวกัน ยังมีรายงานหนึ่งที่กล่าวว่า อัสมาอ์ ได้อยู่เคียงข้างท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต และนางได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นและพฤติกรรมของอิมามฮะซันและอิมามฮุเซน(อ.) และอิมามอะลี(อ.) ที่มีต่อร่างศพ(ญินาซะฮ์) ของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) (12) และอัสมาอ์ ยังเป็นผู้รายงานเกี่ยวกับการจัดงานไว้อาลัยให้กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) ด้วยเช่นกัน(13)

ยังมีรายงานอีกเช่นกันที่กล่าวว่า อัสมาอ์ได้ร่วมอยู่ในพิธีการสมรสของอิมามอะลี(อ.)กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.) (14) และยังมีรายงานอีกด้วยเช่นกันว่า อัสมาอ์ได้ร่วมอยู่กับศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ในการคลอดบุตรของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.)(15) และตามคำกล่าวของอะลี บินอีซา อิรบิลี นักเทววิทยาของชีอะฮ์ ในศตวรรษที่เจ็ด ระบุว่า เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในการบันทึกรายงานระหว่างอัสมาอ์ บินติ ยะซีด อันศอรี กับอัสมาอ์ บินติอุมัยส์ เพราะว่า การสมรสของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ เกิดขึ้นในปีที่ 2 หรือที่ 3 แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ขณะที่อัสมาอ์ บินติอุมัยส์ อยู่ในเอธิโอเปีย จนถึงปีฟัตฮ์มักกะฮ์(ปีที่ 7 ฮ.ศ.) อิรบิลี ยังคาดว่า เกิดความผิดพลาดระหว่างการบันทึกว่า อัสมาอ์กับซัลมา บินติอุมัยส์ ภรรยาของฮัมซะฮ์ เพราะว่าอัสมาอ์ เป็นที่รู้จักมากกว่าซัลมา ด้วยจึงพบว่ามีรายงานจากอัสมาอ์ หรือผู้รายงานบางคนได้รายงานชื่อผิดพลาดและบุคคลอื่นได้ปฏิบัติตามเขา(17) (บันทึกที่ 2)

ยังมีรายงานอีกเช่นกันว่า อัสมาอ์ได้อยู่ในขณะที่ศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ได้อำลาจากโลกนี้ไป(18)

การรายงานฮะดีษ

อัสมาอ์ ได้รายงานฮะดีษจากศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) (19) และเช่นเดียวกับ บุตรของนาง อับดุลลอฮ์ ซะอีด บินมุซัยยิบ อุรวะฮ์ บินซุบัยร์ และอื่นๆได้รายงานฮะดีษจากอัสมาอ์(20) ฟาฏิมะฮ์ บินติอะลี (อ.) ได้รายงานฮะดีษมันซิลัต (21) และฮะดีษร็อดดุชชัมส์(การย้อนกลับของดวงอาทิตย์)(22) จากอัสมาด้วยเช่นกัน

อะฮ์มัด บินอะบียะอ์กูบ นักรายงานประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่สาม ได้บันทึกว่า มีหนังสือเล่มหนึ่งอยู่กับอัสมาอ์ที่รวบรวมฮะดีษของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ)(23)

บุตรของอัสมาอ์

อับดุลลอฮ์ มุฮัมมัด และอูน เป็นบุตรของอัสมาอ์กับญะอ์ฟัร บินอะบีฏอลิบ(24) และเช่นกัน มุฮัมมัด บินอะบีบักร์ บุตรของอัสมาอ์กับอะบูบักร์(25) ซึ่งเป็นตัวแทนของอิมามอะลีในอียิปต์(26)และยะฮ์ยา เป็นบุตรของอัสมาอ์กับอิมามอะลี(26) แต่เขาเสียชีวิตขณะยังเป็นทารก(28) เสียชีวิต

เสียชีวิตแล้ว

อิบนุกะษีร ดะมัชกี นักประวัติศาสตร์ในศตวรรษทที่แปด รายงานว่า อัสมาอ์ เสียชีวิตในเหตุการณ์ปี 38 แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช (29) แน่นอนว่า บางแหล่งอ้างอิง รายงานว่า อัสมาอ์ เสียชีวิตหลังจากการเป็นชะฮีดของอิมามอะลี(อ.) (30) และร่างของอัสมาอ์ ถูกนำไปฝังที่ สุสานบาบ อัศศอฆีร ในเมืองดะมัสกัส ประเทศซีเรีย(31)

เชิงอรรถ

บรรณานุกรม