มุฮ์ซิน บิน อะลี
มุฮ์ซิน บิน อะลี คือ บุตรของท่านอะลีกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) เขาถูกทำให้แท้งในเหตุการณ์การจู่โจมบ้านของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ โดยฝ่ายของผู้สนับสนุนคอลีฟะฮ์ อะบูบักร์ สำหรับการเรียกร้องสัตยาบันจากอิมามอะลี (อ.)
วันที่เป็นชะฮีดของเขา ไม่เป็นที่กำหนดชัดเจน โดยมุฮัมมัดฮาดี ยูซุฟี ฆ็อรวีย์ (ถือกำเนิด 1327 สุริยคติ) นักวิเคราะห์ประวัติศาสตร์อิสลามร่วมสมัย ได้แสดงหลักฐานซึ่งบ่งบอกถึงการจู่โจมบ้านของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) และการแท้งท่านมุฮ์ซิน ว่า ประมาณ 50 วัน หรือมากกว่านั้น หลังจากการวะฟาตของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)
ด้วยเหตุนี้เอง บางคนจึงถือว่า ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนรอบีอุลเอาวัล เป็นช่วงอัยยามมุลมุฮ์ซินะฮ์ และในช่วงเวลานี้เอง ก็ได้มีการจัดงานไว้อาลัยให้กับท่านมุฮ์ซิน อีกด้วย เนื่องจากการจัดงานประเภทนี้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตามความเชื่อของชีอะฮ์ จึงไม่ได้รับการยอมรับมากนักจากบรรดามัรญิอ์ตักลีดสักเท่าไหร่
เกี่ยวกับมุฮ์ซิน บิน อะลี มีหนังสือที่เขียนถึงเขาอย่างมากมาย ทั้งเป็นภาษาอาหรับและภาษาฟาร์ซี อาทิเช่น หนังสือ อัลมุฮ์ซิน อัซซิบฏ์ เมาลูดุน อัม ซิกฏ์ เขียนโดย ซัยยิด มุฮัมมัดมะฮ์ดี มูซาวี คุรซาน
บุตรของอิมามอะลี (อ.) และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.)
จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ของชีอะฮ์[1]และอะฮ์ลิซซุนนะฮ์[2]มุฮ์ซิน เป็นบุตรของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(ซ.)และอิมามอะลี (อ.) มีริวายะฮ์ต่างๆ รายงานว่า ศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เป็นผู้ตั้งชื่อนี้ให้กับเขา [3]อิบนุ ฮะญัร อัซเกาะลานี (เสียชีวิตในปี 852 ฮ.ศ.) ผู้บันทึกประวัติศาสตร์ของเศาะฮาบะฮ์ ชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ ถือว่า คำนี้อ่านออกเสียงว่า มุฮัซซิน ด้วยการเน้นเสียงของอักษรซีน [4]
การเป็นชะฮีด
เกี่ยวกับวิธีการเสียชีวิตของมุฮ์ซิน มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จากแหล่งข้อมูลของชีอะฮ์ รายงานว่า สาเหตุของการเป็นชะฮีดของเขา คือ การถูกทำให้แท้ง (5) ขณะที่แหล่งข้อมูลของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ รายงานว่า การเสียชีวิตของเขาด้วยวลีที่ว่า การตายในวัยทารก (6) การตายในขณะที่เป็นทารก [ 7]หรือสิ่งคล้ายคลึงกันนี้(8) ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่า การมีชีวิตในการถือกำเนิดของเขา อิบนุฮัซม์ อันดะลุซี นักวิชาการชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ (เสียชีวิตในปี 456 ฮ.ศ.) กล่าวว่า มุฮ์ซินเสียชีวิต ทันทีหลังจากที่เขาถือกำเนิด (9)
ในหนังสือ อัลอัคติศ็อซ ซึ่งอ้างอิงจากริวายะฮ์ของอิมามศอดิก (อ.) กล่าวว่า มีการกล่าวถึงเหตุการณ์การแท้งของของมุฮ์ซิน ในเรื่องราวของการประท้วงของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ เพื่อต่อต้านการแย่งชิงสวนฟะดัก อย่างไรก็ตามจากบางแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ถือว่า การแท้งของมุฮ์ซินเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การโจมตีบ้านของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) [11] มูฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม ชะฮ์ริซตานี (เสียชีวิต 548 ฮ.ศ.) เขียนในหนังสือ อัลมิลัล วันนะฮัล อ้างคำพูดของอิบรอฮีม บิน ซัยยาร ที่รู้จักกันในชื่อ นัซซอม มุอ์ตะซิลี (เสียชีวิต 221ฮ.ศ.) หนึ่งในผู้อาวุโสของมุอ์ตะซิลี รายงานว่า การที่ อุมัร บิน ค็อฏฏ็อบ ทุบตีไปที่สีข้างท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ เป็นเหตุทำให้เกิดการแท้งมุฮ์ซิน [12] อิบนุ อะบิลฮะดีด มุอ์ตะซิลี (เสียชีวิต 656 ฮ.ศ.) ผู้อธิบายของนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ยังกล่าวถึงการแท้งของมุฮ์ซินเกี่ยวกัลเหตุการณ์ของการบีบบังคับท่านอะลี (อ.) ไปให้สัตยาบัน (อ.) จากการโต้ตอบทางวิชาการกับ อะบูญะอ์ฟัน นะกีบ อาจารย์ของเขา [13]
บางส่วนของริวายะฮ์ ที่มีการกล่าวถึงในแหล่งข้อมูลของอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ รายงานว่า มุฮ์ซิน ถือกำเนิดในช่วงการมีชีวิตของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) [14]
บนพื้นฐานของริวายะฮ์หนึ่งที่มีการบันทึกไว้ในหนังสือ กามิลอัซซิยารอต รายงานว่า บุคคลแรกจากลูกหลานของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ซึ่งบัญชีของเขาจะมีการตัดสินในวันกิยามะฮ์ คือ มุฮ์ซิน จากนั้น ฆาตกรที่สังหารเขาจะได้รับการลงโทษ [15]
ประวัติของการเป็นชะฮีด (มรณสักขี)
มุฮ์ซินถูกทำแท้ง ในการโจมตีบ้านของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) (16) มุฮัมมัดฮาดี ยูซุฟี ฆ็อรวี (เกิดเมื่อปี 1328 สุริยคติ) นักวิจัยประวัติศาสตร์อิสลาม โดยนำเสนอหลักฐานเชื่อว่า เวลาในการโจมตีบ้านของท่านฟาฏิมะฮ์ (ซ.) ไม่ได้เกิดขึ้นทันที หลังจากเหตุการณ์ซะกีฟะฮ์และการให้สัตยาบันกับอบูบักร์ แต่ประมาณห้าสิบวันหรือมากกว่านั้น หลังจากการมรณกรรมของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)ได้เกิดขึ้น (17)อย่างไรก็ตาม บางคนถือว่า ช่วงเริ่มต้นของเดือนรอบีอุลเอาวัล เป็นช่วงอัยยามมุฮ์ซินียะฮ์ และมีการไว้อาลัย นาศิร มะการิม ชีรอซี (เกิดในปี 1305สุริยคติ) หนึ่งในมัรญิอ์ตักลีดของชีอะฮ์ กล่าวว่า ดีที่สุดจะต้องไม่มีการจัดงานอัยยามมุฮ์ซินียะฮ์ จาก เนื่องจากพิธีการนี้ไม่มีประวัติศาสตร์ในหมู่ชาวชีอะฮ์และจะทำให้เหตุการณ์หลักต้องจืดจางลงไป [19]
กอฎี อับดุลญับบาร มุตะซิลี (เสียชีวิต ในปี415 ฮ.ศ. ) รายงานว่า ชาวชีอะฮ์จำนวนหนึ่งไว้อาลัยให้กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ) และท่านมุฮ์ซิน (อ.)บุตรชายของนาง ในพื้นที่ต่างๆ เช่น อียิปต์ , ดามัสกัส , แบกแดด , รัมลา , อักกา, ไทร์, อัชเคลอน และญะบัล อัล-บาสมัก [20]
สถานที่ฝังศพ
จากแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ไม่ได้กล่าวถึงสถานที่ฝังศพของมุฮ์ซิน แต่จากพื้นฐานของริวายะฮ์หนึ่งที่ถูกบันทึกในหนังสือ ญามิอ์ อันนูร็อยน์ รายงานว่า ท่านอะลี(อ.)ได้สั่งให้ฟิฎเฎาะฮ์ คนรับใช้ของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.) นำร่างของมุฮ์ซิน ไปยังไว้ข้างประตูบ้าน [21]
ผลงานประพันธ์
มีการประพันธ์หนังสือที่เกี่ยวกับมุฮ์ซิน บิน อาลี ในภาษาอาหรับและเปอร์เซีย ดังนี้:
อัลมุฮ์ซิน อับซิบฏ์ เมาลูด อัม ซิกฏ์ เขียนโดย ซัยยิดมุฮัมมัดมะฮ์ดี คุรซาน ในภาษาอาหรับ ซึ่งจัดพิมพ์โดยมัรกัสอับฮาษอัลอะกออิดียะฮ์ ในปี 1430 ฮ.ศ. มีทั้งหมด 626 หน้า ผู้เขียนได้ผลสรุปจากการศึกษาเชิงเปรียบเทียบเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ว่า การแท้งของมุฮ์ซิน เกิดขึ้นในวันที่มีการโจมตีบ้านของท่านอะลี และมีสาเหตุมาจากถูกทุบดีและผลักดันต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ.)[23]
ฆุนเช ยอส มุฮ์ซิน บินอะลี เขียนโดย มะฮ์ดี ฟาฏิมี ในภาษาเปอร์เซียและอาหรับ ซึ่งจัดพิมพ์ในปี 1386 สุริยคติ [24]
นอกจากนี้ หนังสือ มุฮ์ซิน บิน อาลี เขียนโดยอะลี อัศฆัร ริฎวานี [25] อัล-มุฮ์ซิน บิน ฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ เขียนโดย อับดุลมุฮ์ซิน อับดุซซะฮ์รอ อัล-กอฏีฟี [26] และมุซอฟิร ดัรยอ ฮาซรัต มุฮ์ซิน บิน อะลี เขียนโดย ศอดิก ดาวะรี[27]เป็นอีกผลงานประพันธ์อื่นๆที่เกี่ยวกับท่านมุฮ์ซิน (อ.)