ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาคิเราะฮ์"

ไม่มีคำอธิบายอย่างย่อ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 3: บรรทัดที่ 3:
[[อัลกุรอาน]] ได้ให้ความสำคัญในอาคิเราะฮ์เป็นอย่างมาก และการมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ ถือเป็นหลักการของการเชิญชวนของบรรดาศาสดาทั้งหมด  
[[อัลกุรอาน]] ได้ให้ความสำคัญในอาคิเราะฮ์เป็นอย่างมาก และการมีความเชื่อในอาคิเราะฮ์ ถือเป็นหลักการของการเชิญชวนของบรรดาศาสดาทั้งหมด  
กล่าวได้ว่า มีโองการอัลกุรอานมากกว่า 1 ส่วน 3 ได้กล่าวถึงอาคิเราะฮ์  
กล่าวได้ว่า มีโองการอัลกุรอานมากกว่า 1 ส่วน 3 ได้กล่าวถึงอาคิเราะฮ์  
ในหนังสือต่างๆที่เกี่ยวกับหลัก [[ศรัทธา]] ชาวมุสลิมเรียกอาคิเราะฮ์ว่า [[มะอาด]] ซึ่งได้มีการพิสูจน์ด้วยเหตุผลทางการรายงาน ([[นักลี]]) และด้านสติปัญญา ([[อักลี]])  
 
ในหนังสือต่างๆที่เกี่ยวกับหลัก [[ศรัทธา]] ชาวมุสลิมเรียกอาคิเราะฮ์ว่า [[มะอาด]] ซึ่งได้มีการพิสูจน์ด้วยเหตุผลเชิงการรายงาน ([[นักลีย์]]) และด้านสติปัญญา ([[อักลี]])  
 
บรรดาผู้รู้ชาวมุสลิม ด้วยการอ้างอิงจากโองการอัลกุรอาน ถือว่า อาคิเราะฮ์ เป็นโลกที่มีความแตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง และยังมีการกล่าวถึงคุณลักษณะของมันอีกด้วย  เช่น ความเป็นนิรันดร การแยกผู้ที่กระทำความดีออกจากผู้ที่กระทำความชั่ว การได้รับผลของการกระทำและการได้รับประโยชน์จากนิอ์มัตต่างๆตามความเหมาะสม
บรรดาผู้รู้ชาวมุสลิม ด้วยการอ้างอิงจากโองการอัลกุรอาน ถือว่า อาคิเราะฮ์ เป็นโลกที่มีความแตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง และยังมีการกล่าวถึงคุณลักษณะของมันอีกด้วย  เช่น ความเป็นนิรันดร การแยกผู้ที่กระทำความดีออกจากผู้ที่กระทำความชั่ว การได้รับผลของการกระทำและการได้รับประโยชน์จากนิอ์มัตต่างๆตามความเหมาะสม


บรรทัดที่ 21: บรรทัดที่ 23:
บรรดานักวิชาการมุสลิม ถือว่า เหตุผลที่สำคัญที่สุดของการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ เป็นเหตุผลเชิงการรายงาน(นักลีย์) รวมถึงวะฮีย์ ด้วย กล่าวคือ ความจริงที่ว่า บรรดาศาสดา ผู้บริสุทธิ์ ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎และเชิญชวนผู้คนให้มีความศรัทธา เป็นเหตุผลที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ [12] ในบรรดาเหตุผลเชิงการรายงาน ในบริบทนี้ คือ โองการที่ 7 ‎ของซูเราะฮ์อัตตะฆอบุน : จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)  ใช่แล้ว ขอสาบานต่อพระผู้ทรงอภิบาลของข้าพระองค์ พวกเจ้าจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพอย่างแน่นอน  (13)‎
บรรดานักวิชาการมุสลิม ถือว่า เหตุผลที่สำคัญที่สุดของการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ เป็นเหตุผลเชิงการรายงาน(นักลีย์) รวมถึงวะฮีย์ ด้วย กล่าวคือ ความจริงที่ว่า บรรดาศาสดา ผู้บริสุทธิ์ ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎และเชิญชวนผู้คนให้มีความศรัทธา เป็นเหตุผลที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ [12] ในบรรดาเหตุผลเชิงการรายงาน ในบริบทนี้ คือ โองการที่ 7 ‎ของซูเราะฮ์อัตตะฆอบุน : จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)  ใช่แล้ว ขอสาบานต่อพระผู้ทรงอภิบาลของข้าพระองค์ พวกเจ้าจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพอย่างแน่นอน  (13)‎


มุรตะฎอ มุเฎาะฮะรี กล่าวว่า นอกเหนือจากหลักฐานเชิงการรายงานแล้ว ยังมีวิธีการอื่นในการพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด ก็มีสัญลักษณ์และสัญญาณของการมีอยู่ของโลกอาคิเราะฮ์  ซึ่งมีอยู่ 3 แนวทาง กล่าวคือ 1. การรู้จักพระเจ้า 2.การรู้จักโลก 3.การรู้จักจิตวิญญาณและตัวตนของมนุษย์ (14)‎
มุรตะฎอ มุเฎาะฮะรี กล่าวว่า นอกเหนือจากหลักฐานเชิงการรายงาน แล้ว ยังมีวิธีการอื่นในการพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด ก็มีสัญลักษณ์และสัญญาณของการมีอยู่ของโลกอาคิเราะฮ์  ซึ่งมีอยู่ 3 แนวทาง กล่าวคือ 1. การรู้จักพระเจ้า 2.การรู้จักโลก 3.การรู้จักจิตวิญญาณและตัวตนของมนุษย์ (14)‎


ข้อพิสูจน์ทางวิทยปัญญา และข้อพิสูจน์ทางยุติธรรม เป็นอีกเหตุผลทางสติปัญญาของบรรดานักเทววิทยาที่ใช้ในการพิสูจน์การมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ [15]‎
ข้อพิสูจน์ทางวิทยปัญญา และข้อพิสูจน์ทางยุติธรรม เป็นอีกเหตุผลทางสติปัญญาของบรรดานักเทววิทยาที่ใช้ในการพิสูจน์การมีอยู่ของอาคิเราะฮ์ ‎ [15]‎
บรรทัดที่ 30: บรรทัดที่ 32:


== คุณลักษณะของอาคิเราะฮ์และความแตกต่างกับโลกนี้ ==
== คุณลักษณะของอาคิเราะฮ์และความแตกต่างกับโลกนี้ ==
มุรตะฎอ มุเฎาะฮะรี กล่าวว่า มีโองการจากอัลกุรอานหลายร้อยโองการ ที่เกี่ยวข้องกับอาคิเราะฮ์ ‎ เช่น โลกหลังความตาย วันแห่งการฟื้นคืนชีพ วิธีการรวมตัวคนตายเข้าด้วยกัน มาตรวัด การคิดบัญชี การบันทึกของการกระทำ สวรรค์และนรกและความเป็นอมตะของอาคิเราะฮ์ ‎ [18] บรรดานักวิชาการมุสลิม เชื่อว่า ตามพื้นฐานของโองการอัลกุรอาน ระบุว่า อาคิเราะฮ์ ‎มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากโลกนี้และระบบที่มีอยู่ในนั้น [19] มุลลา ศ็อดรอ เชื่อว่า จิตวิญญาณอยู่ภายในร่างกายฉันใด ‎โลกหน้าก็ยังเป็นโลกภายในของโลกนี้ฉันนั้น [20] ฮะกีม ซับซะวารี ยังอธิบายถึงคำพูดนี้ด้วยว่า อาคิเราะฮ์ ‎อยู่ในแนวตั้งของโลกนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับโลกนี้ ก็เหมือนลูกนกที่มีความสัมพันธ์ไปยังไข่ของมัน [21] ในอาคิเราะฮ์ ‎ มนุษย์ทุกคนมีชีวิตอยู่พร้อมๆ กัน ตั้งแต่เริ่มการสร้างไปจนถึงจุดสิ้นสุด [22 ] ในนั้น มนุษย์ทั้งหลาย หรือว่าพวกเขามีความสุขอย่างแท้จริงและทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการก็มีให้สำหรับพวกเขา หรือพวกเขาอยู่ในความทุกข์ยากอย่างยิ่งที่ไม่มีอะไร นอกจากสิ่งที่พวกเขาคิดว่าแย่ ก็จะมีให้สำหรับพวกเขา แต่ในโลกนี้ ชีวิตและความตาย ประโยชน์และความขาดแคลน ความอับโชคและความผาสุก ‎ความทุกข์และความสบายใจ ความเศร้าและความยินดี ได้ปะปนอยู่ด้วยกัน (23)‎
มุรตะฎอ มุเฎาะฮะรี กล่าวว่า มีโองการจากอัลกุรอานหลายร้อยโองการ ที่เกี่ยวข้องกับอาคิเราะฮ์ ‎ เช่น โลกหลังความตาย วันแห่งการฟื้นคืนชีพ วิธีการรวมตัวคนตายเข้าด้วยกัน มาตรวัด การคิดบัญชี การบันทึกของการกระทำ สวรรค์และนรกและความเป็นอมตะของอาคิเราะฮ์ ‎ [18] บรรดานักวิชาการมุสลิม เชื่อว่า ตามพื้นฐานของโองการอัลกุรอาน ระบุว่า อาคิเราะฮ์ ‎มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากโลกนี้และระบบที่มีอยู่ในนั้น [19]
มุลลา ศ็อดรอ เชื่อว่า จิตวิญญาณอยู่ภายในร่างกายฉันใด ‎โลกหน้าก็ยังเป็นโลกภายในของโลกนี้ฉันนั้น [20] ฮะกีม ซับซะวารี ยังอธิบายถึงคำพูดนี้ด้วยว่า อาคิเราะฮ์ ‎อยู่ในแนวตั้งของโลกนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับโลกนี้ ก็เหมือนลูกนกที่มีความสัมพันธ์ไปยังไข่ของมัน [21] ในอาคิเราะฮ์ ‎ มนุษย์ทุกคนมีชีวิตอยู่พร้อมๆ กัน ตั้งแต่เริ่มการสร้างไปจนถึงจุดสิ้นสุด [22 ] ในนั้น มนุษย์ทั้งหลาย หรือว่าพวกเขามีความสุขอย่างแท้จริงและทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการก็มีให้สำหรับพวกเขา หรือพวกเขาอยู่ในความทุกข์ยากอย่างยิ่งที่ไม่มีอะไร นอกจากสิ่งที่พวกเขาคิดว่าแย่ ก็จะมีให้สำหรับพวกเขา แต่ในโลกนี้ ชีวิตและความตาย ประโยชน์และความขาดแคลน ความอับโชคและความผาสุก ‎ความทุกข์และความสบายใจ ความเศร้าและความยินดี ได้ปะปนอยู่ด้วยกัน (23)‎


คุณลักษณะอื่นๆ บางประการของอาคิเราะฮ์ ในโองการของอัลกุรอานและฮะดีษ ซึ่งมีดังนี้ :‎
คุณลักษณะอื่นๆ บางประการของอาคิเราะฮ์ ในโองการของอัลกุรอานและฮะดีษ ซึ่งมีดังนี้ :‎
confirmed
838

การแก้ไข